วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ความหมายของ วันพืชมงคล


วันพืชมงคล 2555

070509-01
ความหมายของ วันพืชมงคล
เป็นวันที่กำหนดพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จัดขึ้นในวันใดนั้นขึ้นโดยกรมพระราชพิธีพราหมณ์ในสำนักพระราชวัง โดยส่วนใหญ่จะประมาณต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือว่าเป็นต้นฤดูของการทำนาและเพาะปลูกพืชพันธุ์ต่าง ๆ เป็น พระราชพิธีเก่าแก่มาแต่สมัย โบราณ เพื่อเป็นการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกรของชาติ พระมหากษัตริย์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดพระราชพิธีนี้ขึ้น
พระราชพิธีพืช มงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี แต่จะมีแต่เพียงพิธีทางพราหมณ์เท่านั้น ใช้ชื่อว่า พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า พิธีแรกนา ซี่งในสมัยนั้นพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงมือไถนาเอง เป็นเพียง องค์ประธานในพระราชพิธีเท่านั้น ต่อมา
จนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้มีการเปลี่ยนแปลงคือ พระมหากษัตริย์ไม่ได้เสด็จเป็นองค์ประธาน แต่จะ มอบอำนาจให้ผู้อื่นกระทำแทนพระองค์
ส่วนพระองค์นั้นจะทรงจำศีลเงียบ ๓ วัน และได้ถือปฏิบัติเรื่อยมา
ในครั้นสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการประกอบพิธีนี้ในสมัยรัชกาลที่ ๑ (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช)ได้ทรงเปลี่ยนแปลงพิธีกรรม บางอย่าง กล่าวคือ ผู้ทำการแรกนาเปลี่ยนเป็นเจ้าพระยาพหลเทพ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) ให้ถือว่าผู้ใด เป็นผู้ที่ยืนชิงช้าให้ถือครองตำแหน่งพระยาแรกนาอีกอย่าง เมื่อถึงรัชกาลที่ ๔ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ได้ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้มีพิธีสงฆ์เพิ่มขึ้นในพระราชพิธีต่างๆ ทุกพิธี
070509-03070509-04070509-05
วันพืชมงคล
ดังนั้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จึงเป็น ๒ พระราชพิธี คือพระราชพิธีพืชมงคล เป็นพิธีของสงฆ์ จะประกอบพระราชพิธีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ส่วนพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีของพราหมณ์ ในวันที่ ๒ จัดขึ้น ณ ลานพระราชพิธี ท้องสนามหลวง โดยพระมหากษัตริย์ จะเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี โหรหลวงจะบูชาพระฤกษ์และลั่นฆ้องชัย ขบวนพระยาแรกนา ซึ่งประกอบด้วยพระยาแรกนา (ผู้ที่ทำหน้าที่นี้ คือ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) เทพีคู่หาบทอง คู่หาบเงิน รวม ๔ คน (ปัจจุบัน ผู้ที่ทำหน้าที่นี้ คือ ข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นโทขื้นไป และเป็นสตรีโสดสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ราชบัณฑิตเชิญเต้าเทวบิฐบรรจุน้ำ พระพุทธมนต์ ๑ ท่าน พราหมณ์เป่าสังข์ ๒ ท่าน พราหมณ์เชิญพระโคอุศุภราช ๑ ท่าน พราหมณ์ถือกรรชิง (เครื่องสูงสำหรับกันแดด มีลักษณะฉัตร) หน้า ๒ ท่าน หลัง ๒ ท่าน และพระโค ๑ คู่ โดยก่อนเริ่มเคลื่อนขบวนพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระยาแรกนาขวัญจุดธูปเทียน ถวายสักการะเทวรูปสำคัญแล้วจะได้ตั้งสัตยาอธิษฐาน หยิบผ้านุ่งแต่งกาย นุ่งผืนนั้นทับผ้านุ่งเดิมอีกชั้นหนึ่ง นุ่งอย่างบ่าวขุนเตรียมออกแรกนา ในการหยิบผ้านุ่ง ก็จะมีการทำนายผลตามที่พระยาแรกนาขวัญหยิบ คือ ถ้าหยิบได้ผ้า ๔ คืบ พยากรณ์ว่า น้ำจะมากสักหน่อย นาในที่ดอนจะได้ผลบริบูรณ์ดี นาในที่ลุ่มอาจจะเสียหายบ้างได้ผลไม่เต็มที่ ถ้าหยิบได้ผ้า ๕ คืบ พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์และผลาหาร(ลูกไม้) มังสาหาร(เนื้อสัตว์) จะอุดมสมบูรณ์ดี ถ้าหยิบได้ผ้า ๖ คืบ พยากรณ์ว่า น้ำจะน้อย นาในที่ลุ่มจะได้ผลบริบูรณ์ดี แต่นาในที่ดอนจะเสียหายไม่ได้ผลเต็มที่

070509-02
วันพืชมงคล

หลังจากทำการ เสี่ยงทายผ้านุ่งแล้ว ก็จะเริ่มเคลื่อนขบวนประกอบพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ โดยพระยาแรกนาจับหางคันไถด้วยมือข้างหนี่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็จะถือพระแสงปฏัก เดินไถดะ เป็นจำนวนทั้งหมด ๓ รอบ ในระหว่างนั้นราชบัณฑิตจะพรมน้ำพระพุทธมนต์ลงบนพื้นดิน ในรอบที่ ๔ พระยาแรกนาจะเริ่มหว่านเมล็ดข้าวจนครบ ๓ รอบ ต่อจากนั้นจะทำการไถกลบอีก ๓ รอบ รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน ๙ รอบ พนักงานปลดแอกออกจากพระโค พระยาแรกนา พร้อมเทพี กลับไปโรงพิธีพราหมณ์ หลังจากนั้นจะเป็นพิธีตั้งเลี้ยงพระโค โดยจะเสี่ยงทาย ของกิน ๗ สิ่ง อันได้แก่ ข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่วเขียว งา เหล้า น้ำ และหญ้า ถ้าโคกินสิ่งใด โหรหลวงก็จะทำนาย ตามที่พระโคกิน คือ
คำทำนายสำหรับ วันพืชมงคล ของพระยาโค
ถ้ากินข้าวหรือข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร (ข้าว) ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี
ถ้ากินถั่วหรือ งา พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหาร(อาหารที่กินประจำ) จะอุดมสมบูรณ์ดี
ถ้ากินน้ำหรือ หญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
ถ้ากินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง

เมื่อ โหรหลวงถวายคำพยากรณ์เสร็จแล้วก็จะแห่พระยาแรกนาขวัญเป็นกระบวนอิสริยยศออก จากโรงพิธีพราหมณ์ผ่านพลับพลาหน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายบังคัลแล้วเข้าขบวนไปขึ้นรถยนต์หลวงกลับไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินกลับ หลังจากนั้นข้าวเปลือกที่ใช้ในพระราชพิธี ที่ได้แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือส่วนหนึ่งบรรจุลงในพระเช้าทองและเงินของเทพี ส่วนที่ สองก็ให้แจกจ่ายกับเกษตรกรโดยทั่วไป (ข้าวเปลือกดังกล่าวนำมาจากแปลงนาภายในพระราชวังสวนจิตรลดา)

เชียงใหม่จับ “แมงมัน” ขาย รายได้เสริมหลังฝนกิโลกรัมละ 2 พัน


เชียงใหม่จับ “แมงมัน” ขาย รายได้เสริมหลังฝนกิโลกรัมละ 2 พัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์8 พฤษภาคม 2555 17:24 น.


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น


เชียงใหม่ - ฝนตกส่งผลดีชาวเชียงใหม่ออกเก็บ “แมงมัน” ที่จับได้เพียงปีละครั้งออกวางขายสร้างรายได้เสริม พบได้ราคาดีสูงถึงกิโลกรัมละ 2 พันบาท คนส่วนใหญ่นิยมนำไปปรุงอาหารรับประทาน 
      
       รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากการที่ฝนตกต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลดีทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้เสริมจากการจับ “แมงมัน” ซึ่งมักออกจากรูในช่วงนี้ นำไปวางขายที่ตลาด โดยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และหลายจังหวัดในภาคเหนือนิยมนำ “แมงมัน” ไปปรุงอาหารรับประทาน ทั้งการคั่ว และตำน้ำพริก เป็นต้น ทั้งนี้ ที่ตลาดต้นลำไย ในตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่ามีแม่ค้าหลายรายที่นำแมงมันมาวางขายสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในช่วงนี้
      
       นางเพ็ญ ไชยมงคล อายุ 52 ปี แม่ค้าขายผักในตลาดต้นลำไย ที่นำเอาแมงมันมาคั่วขาย บอกว่า แมงมันจะออกมาให้จับเพียงปีละครั้งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นในช่วงนี้ของทุกปี โดยจะออกมาหลังจากที่มีฝนตก วิธีการจับจะนำเทียนไปจุดล่อไว้ที่ปากรูแล้วนำถุงไปครอบไว้ เมื่อจับมาได้จะนำไปปรุงอาหารรับประทานและขาย ซึ่งแมงมันที่นิยมรับประทานกันจะเป็นตัวเมียที่มีขนาดใหญ่และรสชาติดีกว่า
      
       ส่วนราคาขายแมงมันในท้องตลาดนั้น นางเพ็ญบอกว่าขายกันอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 2,000 บาท ซึ่งในแต่ละวันคนที่ออกไปจับแมงมันจะสามารถจับมาได้คนละประมาณ 1-2 กิโลกรัม นำมาขายสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม พบว่าในปีนี้ส่วนใหญ่จับแมงมันได้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเข้าใจว่าอาจจะเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
      
       สำหรับ “แมงมัน” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า The subterranean ants และชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Carebara เป็นชื่อเรียกของมดชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นมดราชินี สามารถนำมารับประทานเป็นอาหาร ได้ แมงมันตัวเมียมีสีแดงคล้ำ ตัวใหญ่ มีรสมัน นิยมนำมาบริโภคเป็นอาหาร เรียกกันทั่วไปว่า "แมงมันแม่" แมงมันตัวผู้มีสีเหลือง ตัวเล็กกว่าแมงมันตัวเมีย ไม่นิยมรับประทานเพราะมีรสขม เรียกกันทั่วไปว่า “แมงมันปู๊” หรือ “แมงมันคา” 
      
       แมงมันชอบอาศัยอยู่ตามที่ดินที่เป็นที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง ชอบดินแข็งและชอบอยู่ใกล้รากไม้ใหญ่ๆ คล้ายปลวก แต่ไม่ก่อดินหรือพูนดินขึ้นเป็นจอมปลวก ในรอบหนึ่งปีแมงมันจะออกจากรูเฉพาะเดือนพฤษภาคม คือฤดูฝน เพราะน้ำฝนที่ซึมลงดินทำให้แมงมันอยู่ไม่ได้จะออกจากรูขึ้นมาอยู่บนผิวดิน แมงมันจะไม่ย้ายรังถ้าไม่ถูกรบกวนจากคน ก่อนที่ลูกแมงมันจะออกมาแม่จะออกมาก่อนเพื่อขยายรูให้กว้างขึ้นเพราะลูกแมงมันตัวโตกว่า แม่แมงมันจะใช้เวลาขยายรูประมาณ 3 ชั่วโมงลูกแมงมันถึงจะออกมาได้

ศรีสะเกษบุกตรวจยึดไม้ “พะยูงยักษ์” ถูกลอบตัดโค่นในป่าชุมชน


ศรีสะเกษบุกตรวจยึดไม้ “พะยูงยักษ์” ถูกลอบตัดโค่นในป่าชุมชน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์8 พฤษภาคม 2555 19:23 น.

เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครอง จ.ศรีสะเกษ เข้าตรวจยึดไม้พะยูงขนาดใหญ่ ที่ถูกลักลอบตัดในป่าชุมชนบ้านโนนป่าใต้ หมู่ 7 ต.แข้ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ วันนี้( 8 พ.ค.)

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น



ศรีสะเกษ - เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครอง จ.ศรีสะเกษเข้าตรวจยึดไม้พะยูงขนาดใหญ่ที่ถูกลักลอบตัดในป่าชุมชน อ.อุทุมพรพิสัย ระบุหากถูกนำส่งขายต่างประเทศจะมีมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
      
       วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครอง จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดิน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เข้าตรวจสอบที่ดินของนางคำจันทร์ อินทอง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 7 ต.แข้ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจยึดไม้พะยูงขนาดใหญ่ที่ถูกลักลอบตัดโค่นในที่ดินเขตป่าชุมชนอยู่ติดกับที่ดินของนางคำจันทร์ โดยเป็นการตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ แต่นางคำจันทร์แจ้งว่าต้นไม้พะยูงอยู่ในที่ดินของตัวเอง ซึ่งมีเอกสารสิทธิเป็น น.ส. 3 ก. เนื้อที่ทั้งหมด 8 ไร่ แต่ไม่ทราบว่าหลักเขตอยู่ตรงจุดไหนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน สาขาอุทุมพรพิสัย เข้ามารังวัดที่ดินผืนดังกล่าว
      
       ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนแอบลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในที่ดินซึ่งเป็นเขตป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ป่าชุมชนบ้านโนนป่าใต้ หมู่ 7 ต.แข้ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จ.ศรีสะเกษ เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวท่ามกลางสายฝนตั้งแต่กลางดึกของคืนที่ผ่านมา
      
       จากการตรวจสอบพบไม้พะยูงขนาดใหญ่ถูกตัดโค่นไว้เพื่อเตรียมขนย้าย จึงได้ทำการตรวจยึดและเฝ้าไว้ทั้งคืน ไม้พะยูงต้นดังกล่าวหากส่งไปขายต่างประเทศจะมีมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ซึ่งหากเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินรังวัดแล้วพบว่าไม้พะยูงดังกล่าวอยู่ในเขตป่าชุมชน เจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจยึดไว้ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตับห่าน เมนูหรูที่มาจากความเหี้ยมโหด


ตับห่าน เมนูหรูที่มาจากความเหี้ยมโหดดูภาพชุดจาก Manager Multimedia
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์8 พฤษภาคม 2555 11:42 น.
การผลิตตับห่าน ซึ่งในปัจจุบัน 90 เปอร์เซนต์ ทำจากตับเป็ด
       ASTVผู้จัดการออนไลน์--หลังจากที่บริษัทข้ามชาติจากอังกฤษ ครีก โพรเจกต์ อินเวสต์เมนต์ส (Creek Project Investments) ประกาศทุ่มทุนราว 100 ล้านหยวน ทำฟาร์มเลี้ยงเป็ดและห่านในตำบลกานลู่ มณฑลเจียงซี โดยตั้งเป้าผลิตตับห่านปีละ 1,000 ตัน หวังทำเงินรายได้ต่อปีเฉียด 900 ล้านหยวน และมีกำไรประมาณ 102 ล้านหยวน หากธุรกิจฯเดินหน้าฉลุย ก็จะกิจการผลิตตับห่านใหญ่สุดในโลก
      
       แต่กลุ่มรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมในกรุงปักกิ่งก็ออกมาต่อต้านโครงการผลิตตับห่านนี้สุดฤทธิ์ เนื่องจากกรรมวิธีผลิตตับห่าน(Foie Gras) ซึ่งเป็นอาหารตำรับฝรั่งเศสราคาแพงนั้น ทารุณบรรดาห่านหรือเป็ดอย่างเหี้ยมโหดสุดสุด โดยบังคับให้เป็ดห่านกินอาหาร อัดผ่านทางท่อโลหะ ซึ่งสอดลงไปในคอหอยของสัตว์ เพื่อเร่งให้ตับของพวกมันอ้วนเกินกว่าขนาดปกติ 6-10 เท่า
      
       กลุ่มสื่อจีนขานรับการต่อต้านอภิมหาโครงการผลิตตับเป็ดตับห่าน และยังได้เผยว่า ‘ตับห่าน’ ซึ่งจัดเป็นอาหารเลิศหรูของชาวแดนน้ำหอม ได้กลายเป็นเมนูระดับอินเตอร์เย้ายวนให้คนทั่วโลกมาลิ้มลอง ในปัจจุบัน 90 เปอร์เซนต์ของการผลิตตับห่าน มาจากตับเป็ด มีเพียง 10 เปอร์เซนต์ ที่เป็นสูตรดั้งเดิมที่ใช้ตับห่านแท้ๆ
      
       กลุ่มสื่อจีนยังได้นำเสนอภาพกรรมวิธีการผลิตฯ ที่เหี้ยมโหดเหลือเกิน (ภาพ เฟิ่งหวง)

ฝูงเป็ดที่เติบโตเต็มที่ในฟาร์มผลิตตับห่านแห่งหนึ่ง
      
      
เมื่ออัดฉีดอาหารพิเศษให้ตับเป็ดพองโตเต็มที่แล้ว ก็นำพวกมันมาแขวนห้อยหัวลง เปิดน้ำให้ไหลผ่านตัวเป็ด
      
ถอนขน จัดท่าให้ตับโผล่ขึ้นมา
      
      
ได้แล้ว ตับ! สำหรับทำเมนูสุดหรู
      
ตับห่าน อาหารหรูของชาวแดนน้ำหอม ที่ได้กลายเป็นเมนูอินเตอร์